ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของอรพรรณ กาประโคน

คำนำ

สวัสดีค่ะผู้เยี่ยมชมทุกท่าน...บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอนในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู ภาคเรียนที่ 1/2557สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง .....เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน(blended learning)เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้ผู้เรียนสามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับการศึกษาค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้ในชั้นเรียนปกติ นอกจากนี้ยังเป็นทางหนึ่งในการส่งเสริมให้ผู้เรียนค้นพบประโยชน์และคุณค่าของ "ทางสายกลาง"โดยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง...

หน่วยที่2

หน่วยที่2   ระบบเทคโนโลยีสารสนเทสและการสื่อสาร

     1. ระบบและวิธีการเชิงระบบ
           การทำงานใด ๆ ให้ประสบผลสำเร็จบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นย่อมเกิดจากพื้นฐานวิธีการที่มีลำดับและขั้นตอนชัดเจนสามารถปฏิบัติซ้ำ ๆ ได้หลายครั้งอย่างถูกต้องและสมเหตุสมผลทุกครั้งไป เราเรียกกระบวนการและขั้นตอนนั้นว่า  ระบบ
           ระบบ (System)  หมายถึง  การทำงานขององค์ประกอบย่อยๆ  อย่างอิสระแต่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันจนกลายเป็นโครงสร้างที่สมบูรณ์ของแต่ละงาน  สามารถตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขได้ทุกขั้นตอน  ระบบจึงเป็นหัวใจสำคัญของงานหรือการดำเนินงานทุกประเภท
           วิธีการเชิงระบบ (System Approach)   วิธีเชิงระบบหรือวิธีระบบคือคำๆเดียวกัน  เป็นกระบวนการคิดหรือการทำงานอย่างมีแบบแผนชัดเจนในการนำเนื้อหาความรู้ด้านต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นวิธีการหรือผลผลิตมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นขั้นตอนฃเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้วิธีระบบยังเป็นการช่วยป้องกันและแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นด้วย

    องค์ประกอบของวิธีระบบ
         วิธีระบบมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

            1.ปัจจัยนำเข้า Input) หมายถึง วัตถุสิ่งของต่างๆรวมถึงเหตุการณ์ สถานการณ์ วัตถุประสงค์ปัญหา ความต้องการ ข้อกำหนด กฎเกณฑ์ อันเป็นต้นเหตุของประเด็นปัญหา
           2.กระบวนการ(Process) หมายถึงวิธีการ ขั้นตอนในการปฏิบัติงาน การสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาและปัจจัยนำเข้าให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือความต้องการ
            3.ผลลัพธ์ (Output) หมายถึง ผลงานที่ได้จากกระบวนการจัดการวัตถุดิบหรือปัจจัยนำเข้าผลงานที่ได้รับอาจจะเป็นวิธีการหรือชิ้นงานก็ได้ ซึ่งสามารถประเมินผลและตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ (feedback)ได้

2.ระบบสารสนเทศ
           
          ระบบสารสนเทศ  เป็นระบบพื้นฐานของการทำงานต่างๆ ในรูปแบบของการเก็บ (input) การประมวลผล (processing) เผยแพร่ (output) และมีส่วนจัดเก็บข้อมูล (storage)

3.องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ
      จำแนกเป็น  2  ประเภท ได้แก่  องค์ประกอบหลัก  และองค์ประกอบด้านต่าง ๆ

       3.1 องค์ประกอบหลักของระบบสารสนเทศ
        องค์ประกอบหลักของระบบสานสนเทศ  มีองค์ประกอบหลัก   2  ส่วน   ได้แก่ 
ระบบการคิด  และระบบของเครื่องมือ

             ระบบการคิด  หมายถึง  กระบวนการและขั้นตอนในการจัดลำดับ  จำแนก  แจกแจง และจัดหมวดหมู่ข้อมูลต่างๆ  เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและเผยแพร่  ระบบการคิดจึงเป็นจุดเริ่มต้น  ที่สำคัญของงานสารสนเทศ

            ระบบเครื่องมือ  หมายถึง  วัสดุอุปกรณ์  หรือเครื่องมือ  ที่นำมาใช้ในการรวบรวม   จัดเก็บ และเผยแพร่  สารสนเทศให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ  ปัจจุบันคอมพิวเตอร์  และเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการจัดการสารสนเทศที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย

      3.2 องค์ประกอบด้านต่าง ๆ ของระบบสารสนเทศ
            เนื่องจากสารสนเทศเป็นวิธีการหรือกระบวนการในการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานต่าง ๆ ดังนั้นองค์ประกอบ สารสนเทศของงานแต่ละด้านจึงแตกต่างกัน

    3.2.1 องค์ประกอบของสารสนเทศด้านจุดมุ่งหมาย ในการแก้ปัญหา มี 4 ประการ ได้แก่
                - ข้อมูล  (Data)
                - สารสนเทศ  (Information)
                - ความรู้  (Knowledge)
                - ปัญญา  (Wisdom)  ที่ช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินงาน
                               
 
 3.2.2 องค์ประกอบของสารสนเทศด้านขั้นตอน ในการดำเนินงานมี  3  ประการ
          คือ  ข้อมูลนำเข้า (Input) กระบวนการ (Process) และผลลัพธ์ (Output) การทำงานจะเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนข้อมูลดิบที่เข้ามาสู่การคำนวณประมวลผลหรือการกลั่นกรองจนได้ชิ้นงานหรือผลลัพธ์ (output)และจัดเก็บเพื่อนำออกมาเผยแพร่ในลักษณะของสารสนเทศต่อไป 

 3.2.3 องค์ประกอบของสารสนเทศในหน่วยงาน ได้แก่ บุคคลหรือองค์กร เทคโนโลยี ข้อมูล และระบบสารสนเทศ
            
 3.2.4.  องค์ประกอบระบบสารสนเทศทั่วไป   (Information  Process  Systems)  ประกอบด้วย องค์ประกอบดังนี้ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล (hardware)  ข้อมูล(data)  สารสนเทศ (information)โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ (software) บุคลากรด้านคอมพิวเตอร์ (people ware)

4. ขั้นตอนการจัดระบบสารสนเทศ ประกอบด้วย  3 ขั้นตอน  

          ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์ระบบ  (System  Analysis)
           แบ่งออกเป็น  4  หน่วยย่อย  คือ
                    1. วิธีวิเคราะห์แนวทางการปฏิบัติงาน  (Mission Analysis)  
                    2.  วิเคราะห์หน้าที่ (Functional Analysis) 
                    3. วิเคราะห์งาน  (Task Analysis)  
                    4. วิเคราะห์วิธีการและสื่อ  (Method-Means Analysis)  

           ขั้นที่  2  การสังเคราะห์ระบบ  (System Synthesis)
            
                วิธีการสังเคราะห์ระบบช่วยเกลี่ยน้ำหนักเนื้อหาหรือภาระงานของขั้นตอนต่างๆ ให้มีความสมดุลในการแก้ปัญหาซึ่งมีขั้นตอนย่อย  ดังนี้
                  1.  การเลือกวิธีการหรือกลวิธี เพื่อหาช่องทางไปสู่จุดมุ่งหมายแล้วทดสอบและทดลองกลวิธี   เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมกับสารสนเทศที่วิเคราะห์และสังเคราะห์ไว้
                 2.ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเลือกกลวิธีที่เหมาะสมที่วางแผนแล้วก่อนใช้กลวิธีนั้นดำเนินการแก้ปัญหา
                 3. ประเมินผลประสิทธิภาพ การดำเนินงานโดยการแก้ปัญหา แล้วประเมินผลเพื่อหาประสิทธิภาพของผลลัพธ์ได้

ขั้นที่  3  การสร้างแบบจำลอง  (Construct a Model)
            
                แบบจำลองเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด  ออกมาเป็นภาพที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นภาพลายเส้น  หรือรูปสามมิติ  แบบจำลองระบบทำให้เข้าใจโครงสร้าง  องค์ประกอบ และขั้นตอนในการดำเนินงาน  สามารถตรวจสอบหรือทำนายผลที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะนำระบบไปใช้จริง 

     5.ประเภทของระบบสารสนเทศ

           แบ่งได้  3  ระดับ  คือ  ระบบสารสนเทศระดับบุคคล   ระบบสารสนเทศระดับกลุ่ม และระบบสารสนเทศระดับองค์กร
              1. ระบบสารสนเทศระดับบุคคล คือ ระบบที่เสริมประสิทธิภาพและเพิ่มผลงานให้แต่ละบุคคล ในหน้าที่รับผิดชอบ เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลการขาย
              2.  ระบบสารสนเทศระดับกลุ่ม คือ  ระบบสารสนเทศที่ช่วยเสริมการทำงานของกลุ่มบุคคลที่มีเป้าหมายการทำงานร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ระบบบริการลูกค้า  การประชุมผ่านเครือข่าย ระบบการไหลเวียนอัตโนมัติของเอกสาร  ระบบการจัดตารางเวลาของกลุ่ม
             3. ระบบสารสนเทศระดับองค์กร คือ  ระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรในภาพรวม  เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานร่วมกันของหลายแผนกโดยการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องร่วมกันด้วยวิธีส่งผ่านถึงกันจากแผนกหนึ่งข้ามไปอีกแผนกหนึ่ง

     6.ข้อมูลและสารสนเทศ

           6.1 ข้อมูล (data)
                  ข้อมูล หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า ทั้งที่สามารถนับได้และนับไม่ได้ มีคุณลักษณะเป็นวัตถุสิ่งของ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น และต้องเป็นสิ่งมีความหมายในตัวมันเองซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของรูปภาพ  แสง  สี เสียง  รส  

        6.2 สารสนเทศ (informational)
                  สารสนเทศ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการกลั่นกรองโดยการจำแนกแจกแจง จัดหมวดหมู่ การคำนวณและประมวลผลแล้ว สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้ 

         6.3 ความรู้ (Knowledge)
                  ความรู้ เป็นสภาวะทางสติปัญญาของมนุษย์ในการตีความสิ่งเร้าทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกด้วยความเข้าใจสาระของเนื้อหา กระบวนการ และขั้นตอน อาจอยู่ในรูปของข้อมูลดิบหรือสารสนเทศระดับต่าง ๆ หรืออาจอยู่ในรูปของอารมณ์ความรู้สึกและเหตุผล 

          6.4 การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ   มีวิธีการจัดการดังนี้
      
                6.4.1 ขั้นตอนการประมวลผลข้อมูล (Data processing steps) มีการประมวลผลตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เหมาะสม ดังนี้
                    1.การรวบรวมข้อมูล (Data collection) หมายถึงการเก็บข้อมูลจำนวนมากจากแหล่งกำเนิด (capturing)มาทำการเข้ารหัส (Coding) ในรูปที่เหมาะสมต่อการจัดเก็บ  และการบันทึก (recording)  ในสื่อที่สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้นาน ๆ 

                    2. การบำรุงรักษาและประมวลผลข้อมูล (Data Maintenance Processing) เป็นกระบวนการเก็บรักษาข้อมูลไว้ให้ใช้ได้ตลอดไป ซึ่งอาจประกอบด้วยปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา (updating)  ทำการแยกประเภท  (classifying)  จัดเรียงข้อมูล  (sorting)  และคำนวณหาข้อมูลใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว  (calculating)  เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
  
                  3.  การจัดการข้อมูล  คือ การสร้างระบบจัดการข้อมูลจำนวนมาก ให้สามารถนำมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วทันเวลา  ซึ่งประกอบด้วยการจัดเก็บไว้ในแฟ้มข้อมูลอย่างเป็นระบบ  

                 4. การควบคุมข้อมูล (Data Control) เป็นการป้องกันรักษาข้อมูลที่จัดเก็บไว้แล้วให้ปลอดภัย  ไม่ให้ข้อมูลที่มีค่าถูกขโมยไปใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง

                 5.  การสร้างสารสนเทศ เป็นการตีความหมายของข้อมูลที่ได้มาแล้ว ค้นหาความหมายหรือความสำคัญที่มีคุณค่าของข้อมูลที่ได้โดยการนำไปประมวลผลด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น  การคำนวณ  การเรียงข้อมูล  (sorting)  การค้นหา (searching)  

           6.4.2 วิธีการเก็บข้อมูล (Data Collection Methods) 
       
                  1.  การสำรวจด้วยแบบสอบถาม  
                  2. การสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง  
                  3.   การนับจำนวนหรือวัดขนาดของตนเอง  

       เครื่องคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารข้อมูล 
               หมายถึง คอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องประมวลผลข้อมูล ซึ่งมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ
                         1. สถานีงาน  หมายถึง คอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน    จุดที่จัดไว้ให้ผู้ใช้มาใช้ร่วมกันหรือจัดไว้ให้ผู้ใช้มาใช้ร่วมกัน  หรือจัดไว้ที่โต๊ะทำงานของผู้ใช้แต่ละคน  

                         2. เครื่องบริการ  (Server) เ ป็นเครื่องขนาดใหญ่ที่ใช้ร่วมกันหลายคนเป็นเครื่องที่ใช้เก็บฐานข้อมูลหรือโปรแกรมสำเร็จประยุกต์   จำนวนมากที่สามารถใช้ร่วมกันโดยการสั่งงานด้วยคอมพิวเตอร์  

    เครือข่ายสื่อสารข้อมูล  คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกันให้สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนกันได้ 

                    1. แลน  คือ เครือข่ายบริเวณเฉพาะที่  จำกัดเขตเฉพาะภายในบริเวณอาคารหรือกลุ่มอาคารที่อยู่ใกล้กัน เนื่องจากข้อจำกัดของตัวกลางที่ใช้ส่งข้อมูล เช่น ภายในรั้วโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย 

                     2.  แวน   คือ เครือข่ายบริเวณกว้าง  ระยะทางมากกว่า 10กิโลเมตรขึ้นไปจนมากกว่าหลายพันกิโลเมตร  ปกติเชื่อมโยงด้วยระบบสื่อสารสาธารณะ  เช่น  สายโทรศัพท์ เครือข่ายเส้นใยแก้วนำแสง หรือเครือข่ายสัญญาณดาวเทียม เป็นต้น
                                      
                     3. อินเทอร์เน็ต  (Internet)  คือเครือข่ายขนาดใหญ่  ประกอบด้วยเครือข่ายแวนจำนวนมาก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว้างไกลทั่วโลก

                                   

                                      

2 ความคิดเห็น: